วันเสาร์ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

5 สุดยอดดีลนักเตะไทยไปโลดแล่นต่างแดน



“ผมอยากไปเล่นต่างประเทศครับ” ประโยคนี้ถือเป็นหนึ่งในวลียอดฮิตหากไปตั้งคำถามกับเด็กนักฟุตบอลตัวน้อยวัยสัก 10 ขวบ ว่ามีเป้าหมายสูงสุดในการเล่นฟุตบอลอย่างไร

 

ถึงแม้มันเป็นสิ่งที่ดูไกลตัวและมีอุปสรรคมากมายคอยขวางกั้น แต่ก็มีนักเตะไทยหลายรายที่เป็นตัวอย่างให้เห็นในรูปแบบของ “ไอดอล” ว่ามันก็ไม่ได้มีอะไรยากเกินความสามารถของมนุษย์คนหนึ่ง หากทุ่มเทกับมันมากพอ

 

แล้วในบรรดาแข้งรุ่นพี่เหล่านั้น มีใครกันบ้างที่ “ประสบความสำเร็จ” ในการออกไปไล่ล่าฝันของตนเองที่ต่างประเทศ แล้วมีดีลไหนบ้างที่สร้างชื่อให้นักเตะไทย วันนี้ผมขอพาไปดู 5 อันดับ สุดยอดดีลของนักเตะไทยที่ย้ายไปเล่นยังต่างประเทศ ไปติดตามกันได้ในบทความนี้เลยครับ


 อันดับ 5 ชนาธิป สรงกระสินธ์ ย้ายไป คอนซาโดล ซัปโปโร

10 มกราคม 2017 บนแผ่นดินทางเหนือของประเทศที่ได้ชื่อว่ามีลีกฟุตบอลที่ดีที่สุดในเอเชียอย่าง ญี่ปุ่น คอนซาโดล ซัปโปโร ทีมในเจลีกได้ทำการเปิดตัว ชนาธิป สรงกระสินธ์ มิดฟิลด์จาก เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด สัญญายืมตัว 1ปีครึ่ง ซึ่งถือเป็นคนไทยคนแรกในเจลีกยุคใหม่เลยทีเดียว


ในปีแรกนั้น ชนาธิป เข้าร่วมทีมไปในช่วงครึ่งฤดูกาลหลัง มันจึงเปรียบเสมือนการปรับตัวของ เมสซี่เจ เสียมากกว่า ก่อนที่ในฤดูกาล 2018 เจจะทำผลงาน 8 ประตู กับ 2 แอสซิสต์ และติดทีมยอดเยี่ยมประจำปีของเจลีกเลยทีเดียว


ปัจจุบันนี้เจ้าตัวก็ก้าวขึ้นเป็นนักเตะที่มูลค่ามากที่สุดในทีมเรียบร้อยแล้ว และสิ่งที่ประเมิณค่าไม่ได้เลยนั่นก็คือการยอมรับในตัวของนักเตะไทยจากลีกญี่ปุ่นและมันก็เหมือนเป็นใบเบิกทางให้นักเตะไทยคนอื่นๆ ได้มีโอกาสย้ายไปเล่นที่ญี่ปุ่นอีกเช่นกัน


ในแง่การตลาด เจ้าเจได้ไปออกรายการ ยาเบจจิ เอฟซี ทางช่อง TV Asahi , รายการ Ima masani kiku ทางช่อง SKY PerfecTV นอกจากนี้เขายังได้รับบทนำในโฆษณาของ Shiroi Koibito อีกด้วย และ sportiva.shueisha.co.jp เว็บไซต์ดังของญี่ปุ่นก็ได้รายงานว่า "เมสซี่เจ" ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาในเมืองเพิ่มขึ้นถึง 49% จากปีก่อน เลยทีเดียว


 อันดับ 4 ธีราทร บุญมาทัน ย้ายไป โยโกฮาม่า เอฟ มารินอส

หลังจากไม่ประสบความสำเร็จสักเท่าไหร่กับ วิสเซล โกเบ ในปี 2018 “โก๋อุ้ม” หรือ ธีราทร ก็ได้โอกาสอีกครั้งจาก โยโกฮาม่า เอฟ มารินอส ที่คุมทีมโดย อังเก้ อดีตโค้ชทีมชาติออสเตรเลียที่เคยเจอกับ ธีราทร มาแล้วในเกมทีมชาติ

 

โดยในช่วงแรก อุ้ม ยังปรับตัวให้เข้ากับแทคติกของทีมไม่ได้ เนื่องจากทีมใช้ระบบ inverted fullback ที่ฟูลแบ็คจะต้องขยับเข้าไปยืนตรงกลางสนามในเวลาที่ทีมครองบอล ซึ่งแตกต่างจากสไตล์เดิมของ ธีราทร ที่มักจะยืนชิดเส้นข้างสนาม และเติมสูงขึ้นไปทำเกมรุก ทำให้ 11 นัดแรก อุ้มได้ลงสนามไปเพียง 3 นัดเท่านั้น

 

แต่เมื่อได้เริ่มเรียนรู้และปรับตัวได้ “โก๋อุ้ม” ก็กลายเป็นตัวหลักที่ทีมขาดไม่ได้เลยตลอดทั้งฤดูกาล และอุ้มก็ช่วยให้ มารินอส มีฟอร์มการเล่นที่ดีมากขึ้น จนคว้าแชมป์เจลีกมาครองได้แบบสุดยิ่งใหญ่ และกลายเป็นคนไทยคนแรกและคนเดียวที่ได้แชมป์นี้


 อันดับ 3 ธีรศิลป์ แดงดา ย้ายไป อัลเมเรีย

ในช่วงปี 2014 อัลเมเรีย ทีมในลาลีก้าสเปนได้ทำการยืมตัว “มุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา นักเตะเบอร์ 1 ทีมชาติไทยไปร่วมทีมด้วยสัญญา 1 ปี หลังจากก่อนหน้านี้ กองหน้ารายนี้เคยไปร่วมซ้อมกับ แอตเลติโก้ มาดริด ทีมยักษ์ใหญ่ในลีกมาก่อนแล้ว

 

และในการเดินทางครั้งนั้นของนักเตะที่แฟนบอลชาวไทยขนานนามว่า “เทพมุ้ย” เขาก็ได้สัมผัสลีกเบอร์ 1 ของโลกอย่างลาลีก้า รวมถึงทำประตูในฟุตบอลถ้วยของสเปน โดยนับเป็นคนไทยคนแรกและคนเดียวที่ได้ลงเล่นและยิงประตูในฟุตบอลประเทศสเปน

 

ถึงจะไม่ได้ประสบความสำเร็จ แต่การได้ลงเล่นในลาลีก้าก็ทำให้ ธีรศิลป์ ได้ประสบการณ์อันล้ำค่าและสร้างชื่อไปทั่วเอเชีย ก่อนจะได้ย้ายไปเล่นในเจลีกในเวลาต่อมานั่นเอง


 อันดับ 2 ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน ย้ายไป ลัคกี้โกลสตาร์

“พี่ตุ๊ก” ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน ตำนานกองหน้าอันดับ 1 ของประวัติศาสตร์ทีมชาติไทยที่สร้างผลงานพา ทหารอากาศคว้า 12 แชมป์ในไทย ก่อนจะมีโอกาสได้ไปเล่นใน เคลีก เกาหลีใต้ กับ ลัคกี้โกลสตาร์ ที่ในปัจจุบันก็คือสโมสร เอฟซี โซล นั่นเอง

 

ปิยพงษ์ ได้รับโอกาสจากที่เจ้าตัวยิงประตูเกาหลีใต้ในคิงส์คัพ ทำให้สตาฟฟ์โค้ชของเกาหลีใต้ ที่เป็นผู้ช่วยโค้ชของลัคกี้ โกลด์ สตาร์ มาติดต่อให้ไปร่วมทีม ซึ่ง เดอะตุ๊ก ก็โชว์ผลงานอันยอดเยี่ยมด้วยการทำ 12 ประตู 6 แอสซิสต์จาก 21 นัด พร้อมครองรางวัล ดาวซัลโว , ท็อปแอสซิสต์ และติดทีมยอดเยี่ยมของ เคลีก ในปี 1985

 

ซึ่งนั่นก็ทำให้ ปิยพงษ์ ผิวอ่อน กลายเป็นตำนานนักเตะของสโมสร และปัจจุบันนี้แฟนฟุตบอลเกาหลีใต้ก็ยังรู้จักเขาในฐานะสุดยอดนักเตะไทยที่เคยมาสร้างชื่อเสียงไว้ในเคลีกนั่นเอง

 

อันดับ 1 วิทยา เลาหกุล ย้ายไป แฮร์ธ่า เบอร์ลิน

“โค้ชเฮง” สุดยอดปรมาจารย์ฟุตบอลไทย ที่นอกจากจะเป็นยอดโค้ชแล้ว ในสมัยเป็นนักเตะก็สุดยอดไม่แพ้กัน โดยหลังจากที่เจ้าตัวไปค้าแข้งกับ ยันม่าร์ ดีเซล ในลีกญี่ปุ่นมาแล้ว ก็ได้กลับมาเล่นทีมชาติไทยในเกมที่พบกับ โคโลญจน์ หลังจบเกม อยู่ดี ๆ ก็มีแมวมองของทีมแฮร์ธ่า เบอร์ลิน เข้ามาแนะนำสโมสรให้รู้จัก และถามว่าสนใจไปเล่นในบุนเดสลีก้าไหม

 

แน่นอน วิทยา ตอบตกลง และเขาก็กลายเป็นคนไทยคนแรกใน 5 ลีกสูงสุดของยุโรป ตอนแรก วิทยา ถูกส่งไปซ้อมกับทีมสำรอง แต่โค้ชทีมสำรองได้ไปบอกกับ คูโน่ คล็อตเซอร์ โค้ชทีมชุดใหญ่ว่า วิทยาเล่นดีกว่าเด็กคนอื่นๆ เขาจึงได้โอกาสไปซ้อมกับทีมชุดใหญ่ แต่ด้วยความเป็นเอเชียจึงไม่ค่อยได้รับความเชื่อมั่นจากเพื่อนร่วมทีมมากนัก รวมถึงโดดรุมเหยียดอยู่ตลอดเวลา แต่เจ้าตัวก็ยังอดทนฝึกซ้อมและผ่านมันมาได้

 

สุดท้ายเขาอยู่กับ เบอร์ลิน 3 ปี ก่อนจะย้ายตามคำชักชวนของโค้ชเก่าไปยัง ซาร์บรุคเค่น ทีมในลีก้า 3 และมิดฟิลด์เจ้าของฉายา “ไทยบูม” จะช่วยให้ทีมคว้าแชมป์ลีกและเลื่อนชั้นได้ในที่สุด ก่อนที่เจ้าตัวจะขอลาทีมกลับมายังเมืองไทยและเริ่มงานโค้ชในเวลาต่อมา !!!


เครดิตภาพ
M thai
J-league
ฟุตบอลสยาม
hertha berlin fc


PALM WAZZA : ธนชล เอ่งฉ้วน

ผู้เขียน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น