ในวันที่ 25 กรกฏาคม นี้ ทาง ไชนีส ซูเปอร์ ลีก หรือลีกฟุตบอลที่มีแรงกิ้งเป็นอันดับ
1 ของเอเชียจะกลับมาลงสนามได้แล้ว ใช่ครับผมกำลังพูดถึงประเทศจีน แหล่งต้นกำเนิดของเชื้อ
COVID-19 ที่ทำเอาฟุตบอลทั่วโลกต้องหนีถอยกันไปกว่าครึ่งปี แต่ในดินแดนแห่งนี้เนี่ยแหละ
กำลังจะกลับมาหวดฟุตบอลกันได้แล้ว และทำได้ก่อนหลายๆประเทศด้วยซ้ำ
ในปีนี้พวกเขาเลือกใช้วิธีการ “เข้าแคมป์” หรือการเอาทีมทั้งทีม ไล่ตั้งแต่ โค้ช นักเตะ ทีมงาน ทีมแพทย์ ทุกฝ่ายที่จะเข้าสนามในวันแข่งขัน
ไปเก็บตัวรวมกันในที่เดียวกัน แล้วไม่ออกไปไหนเลยตลอดระยะเวลา 2 เดือน
ของการแข่งขัน
ฟังดูทั้งยุ่งยาก ทั้งใช้งบเยอะใช่ไหมครับ แต่ไม่มีอะไรที่ “อำนาจเงิน”
ของพี่จีนจะทำไม่ได้
มาตรการด้านสาธารณะสุข
เริ่มแรกกันด้วย มาตรการด้านสาธารณะสุข และ วิธีป้องกันไวรัสโคโรน่า
ก่อนอื่นพวกเขาทำเรื่องประสานงานพาตัวนักกีฬาของแต่ละทีมที่ยังอยู่นอกประเทศกลับเข้าสู่แผ่นดินจีนเสียก่อน
ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักเตะต่างชาติ และทั้งหมดจะต้องกักตัว 14 วัน และในที่พักนั้นจะเป็นที่พักอย่างดีและจะมีอุปกรณ์รักษาสภาพความฟิตให้นักกีฬาอีกด้วย
โดยแต่ละสโมสรจะรับผิดชอบประสานงานในการหาเครื่องบินส่วนตัว, เช่าเหมาลำ เองทั้งหมด และทำเรื่องประสานสมาคมขอวีซ่าเข้าประเทศแบบพิเศษนั่นเอง
ภาพห้องกักตัวของ
โจนาธาน วิเอร่า ตัวรุก ปักกิ่ง กั๋วอั่น
ต่อมาพวกเขาจะเดินทางเข้าสู่แคมป์การแข่งขันก่อนแข่งนัดแรกประมาณ 1
สัปดาห์ โดยตั้งแต่ก่อนหน้านั้นจนถึงช่วงที่มาพักในแคมป์จะมีการตรวจเชื้อ COVID-19 ทุกๆ 7 วัน เป็นจำนวน 3 ครั้งด้วยกัน
ซึ่งแคมป์ที่จะใช้พักก็จะเป็น “เหมาโรงแรม” ตลอดระยะเวลาการแข่งขัน
และแต่ละทีมจะได้เหมาไปเลย 2 ชั้น และแต่ละทีมก็จะแยกออกจากกันอย่างชัดเจน
โดยอาหารก็จะเป็นอาหารที่ทางฝ่ายจัดจัดให้ และจะออกจากโรงแรมได้แค่ไปฝึกซ้อมและแข่งขันเท่านั้น
และทุกสโมสรจะเข้า Workshop เรื่องกฎการปฏิบัติตัวเพื่อเลี่ยงเชื้อไวรัส
ในวันที่ 21-22 กรกฎาคม 63
และในระหว่างที่พักอยู่จะมีเจ้าหน้าที่ตรวจวัดไข้อยู่ตลอดเวลา
ระบบการแข่งขัน
แน่นอนว่าการบีบช่วงเวลาจากร่วม 10 เดือน มาเหลือแค่ 2 เดือน
จะต้องเปลี่ยนรูปแบบการแข่งขันใหม่ โดยปีนี้พวกเขาแบ่งออกเป็นสองรอบดังนี้
รอบแบ่งโซน
ในรอบแรกจีนจะแบ่งทั้ง 16 ทีมออกเป็นสองกลุ่ม กลุ่มละ 8 ทีม โดยแต่ละสโมสรแข่งแบบพบกันหมดในกลุ่มตัวเอง
โดยไปใช้สนามกลางในเมืองที่กำหนด ซึ่งแต่ละกลุ่มจะมี 3 สนามสลับกันใช้งาน โดยมีทีมดังนี้
โรงแรมที่พักของกลุ่มเอ
กลุ่มเอ (เมืองต้าเหลียน)
ต้าเหลียน อี้ฟาง
กวางโจว เอฟเวอร์แกรนด์
กวางโจว อาร์แอนด์เอฟ
เหอหนาน เจี้ยนเย้
เจียงซู ซู่หนิง
ซานตง ลู่เหนิง
เซี่ยงไฮ้ เสิ่นหัว
เซินเจิ้น เอฟซี
โรงแรมที่พักของกลุ่มบี
กลุ่มบี (เมืองซูโจว)
เป่ยจิง กั๋วอัน
ฉงชิ่ง ลี่ฟาน
ชิงเต่า หวงไห่
เหอเป่ย์ ไชน่า ฟอร์จูน
ฉีเจียซวง เอเวอร์ไบรท์
เซี่ยงไฮ้ เอสไอพีจี
อู่ฮั่น ซอลล์
เทียนจิน เทนด้า
รอบแชมเปี้ยน
และเมื่อจบการแข่งขันในแรก อันดับที่ 1-4
ของทั้งสองกลุ่มจะมารวมกันในรอบแชมเปี้ยน ส่วนอันดับ 5-8 ก็จะไปรวมกันในกลุ่มหนีตกชั้น และทั้งหมดจะแข่งขั้นแบบน้อคเอาท์เพื่อชิงที่ 1 และที่ 9 (กลุ่มหนีตกชั้น) ตามลำดับ และผู้แพ้ในแต่ละรอบก็จะมีการแข่งเพื่อจัดเรียงอันดับกันด้วย
โดย แชมป์ และ รองแชมป์ จะได้โควตา เอเอฟซี แชมเปี้ยนลีก รอบแบ่งกลุ่ม
ส่วนอันดับ 3 จะไปสิทธิ์ในรอบเพลออฟย์ ส่วนโซนล่าง อันดับ 16 จะตกชั้น ส่วนอันดับ
15 จะต้องไปเพลออฟย์กับทีมจากลีกรองอีกที
ซึ่งทั้งหมดนี้จะแข่งจบภายใน 2 เดือน ในสนามแบบปิด
ซึ่งแต่ละทีมจะได้ลงเล่นทั้งหมด ทีมละ 10 นัด ถือว่าหย่นระยะเวลาจากเดิมมามากเลยทีเดียว
และไม่ไปกินเวลาของฤดูกาลถัดไปแน่นอน
เครดิตภาพและข้อมูล
เพจเล่าเรื่องบอลจีน
AFC.com
https://en.wikipedia.org/wiki/2020_Chinese_Super_League
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น