วันพุธที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2563
5 ทีมเต็ง ยูฟ่า แชมป์เปี้ยนส์ ลีก
ถึงเวลาทวงบัลลังก์ : อุลซาน ฮุนได 2020
เป็นเวลาถึง 6 ปีแล้ว ที่ เคลีก เกาหลีใต้ ถูกครอบครองตำแหน่งแชมป์โดยสองทีมยักษ์ใหญ่อย่าง ชนบุค และ เอฟซีโซล ที่ผลัดกันขึ้นเถลิงบัลลังก์แชมป์โดยที่ทีมอื่นได้แค่มองดูอยู่ห่าง ๆ
แต่ในปีนี้ ใครที่ผ่านมาเห็นตารางคะแนนของลีกโสมขาวก็คงจะเห็นกันแล้วว่า อุลซาน ฮุนได ยักษ์หลับของลีกทำแต้มขึ้นมาครองจ่าฝูงอยู่ในขณะนี้ ด้วยผลงาน ชนะ 11 จาก 14 เกมในลีก
ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ที่พวกเขากลับมาโชว์ผลงานได้ดีอีกครั้ง แต่มันเกิดจากความตั้งใจจริงที่จะพาทีมกลับมาทวงบัลลังก์แชมป์ที่ห่างหายไปตั้งแต่ปี 2005 พวกเขาเริ่มต้นการสร้างทีมด้วยการดึง คิม โด ฮุน เข้ามาคุมทีมในปี 2016
จากนั้นพวกเขาได้ดึงนักเตะเกาหลีใต้ที่ไปเล่นยังต่างแดนกลับมาสู่ทีม ไล่ตั้งแต่ อี ชุง ยอง ปีกตัวเก่งที่เคยเล่นให้คริสตัล พาเลช , ปาร์ค จู โฮ อดีตแบ็คซ้ายดอร์ทมุน , คิม คี ฮี เซนเตอร์แบ็คแชมป์เมเจอร์ลีกอเมริกา และ จุง ซุง ฮุนกองหลังที่คว้าแชมป์ เอเอฟซี กับ คาชิม่า
นอกจากนี้ยังมีนักเตะดีกรีทีมชาตเกาหลีใต้จากทีมในลีกนำมาโดย โจ ฮยอน อู ผู้รักษาประตูมือหนึ่งทีมชาติที่สร้างชื่อด้วยการเซฟกระจายจากบอลโลก 2018 และ อี ควอน โฮ ปีกตัวเก๋าที่กวาดแชมป์มาแล้วทั่วเอเชีย
นอกจากนี้ยังเสริมด้วยตัวต่างชาติที่จะมาเป็นแกนหลักในเกมรับและเกมรุกอย่างละคน โดยเป็น เดฟ บุลต์ฮุยส์ปราการหลังฮอลแลนด์จากเอดิวีซี่ลีก และ กองหน้าอย่าง จูเนียร์ เนเกรา ที่กำลังยิงกระจายกับ แดกู เอฟซี
เมื่อขุมกำลังแข็งแกร่งแล้ว ก็ถึงเวลาที่ คิม โด ฮุน จะมาผสมผสานส่วนประกอบเข้าด้วยกัน เริ่มจากเกมรับที่ โจ ฮยอนอู เฝ้าเสา เซนเตอร์แบ็ควางให้ บุลต์ฮุยส์ เป็นตัวยืนบัญชาการเกมรับ โดยมี จุง ซุง ฮุน ยืนขนาบข้าง และอาจหมุนเวียนด้วย คิม คี ฮี ในบางนัด
แบ็คขวา,ซ้าย มีแบ็คจอมบุกอย่าง คิม แต ฮวาน และ ปาร์ค จู โฮ ตามลำดับ ซึ่งสองรายนี้ก็ขึ้นชื่อเรื่องการวิ่งไม่มีหมดอยู่แล้ว
แดนกลางใช้งาน วอน ดู แจ ดาวรุ่งฟอร์มดียืนมิดฟิลด์ตัวรับ ส่วนมิดฟิลด์ตัวรุกอีก 2 ตำแหน่ง จะมี ยุน บิท กาแรมและ ชิน จิน โฮ กัปตันทีม ทำหน้าที่ปั้นเกมแดนกลาง
ปีกสองข้าง จะมีตัวเลือกทั้ง อี ชุง ยอง , อี ควอน โฮ สองตัวเก๋า รวมถึง คิม อิน ซุง ปีกฟอร์มฮอตให้สลับกันเลือกใช้งาน เพื่อสร้างเกมให้ตัวจบสกอร์อย่าง เนเกรา ที่ปีนี้ทำไปแล้ว 18 ประตู จาก 14 เกมลีก
เชื่อเหลือเกินว่าด้วยขุมกำลังสุดแกร่งที่เลือกใช้วิธีดึงตัวเก๋าจากต่างประเทศกลับมารวมตัวกันในเคลีกอีกครั้ง มันจะทำให้พวกเขากลับมาทวงบัลลังก์คว้าแชมป์ลีกไปครองได้เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 15 ปีแน่นอน !!!
เครดิตภาพ
Ulsan hyundai
วันอาทิตย์ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2563
จอมราชัน เซร์คิโอ รามอส
วันเสาร์ที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2563
5 เหตุผลที่ทำให้ “แข้งเทพ” ยังคงเป็นเต็ง 1 ของไทยลีกปีนี้
“แข้งเทพ” ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ที่ออกสตาร์ทปีนี้ได้อย่างสวยหรูด้วยชัยชนะ 4 นัดรวด และขึ้นนำจ่าฝูงแบบเดี่ยวๆซึ่งในตอนนั้นใครหลายคนก็ต่างบอกว่าพวกเขาคือเต็ง 1 ที่จะคว้าแชมป์ไทยลีกในปีนี้
จนเมื่อมีการพักเบรคจากเหตุการณ์ โควิด-19 และมีการเปิดตลาดนักเตะรอบพิเศษ ทำให้เราได้เห็นสองทีมเจ้าบุญทุ่มอย่าง การท่าเรือ และ บีจีปทุม จนหลายคนก็เริ่มจะเสียงเปลี่ยนมายกธงให้ทีมดังจาก คลองเตย และ คลองสาม เป็นตัวเต็งในปีนี้
แน่นอนการเสริมทัพจะทำให้ทีมแข็งแกร่งขึ้น แต่การที่ไม่เสริมเลยของ “แข้งเทพ” ก็ไม่ได้หมายความว่าจะทำให้พวกเขาลดประสิทธิภาพลง และมันก็แสดงให้เห็นว่าพวกเขามีดีอยู่แล้วจนไม่จำเป็นต้องใช้บริการตลาดรอบนี้…
ความพร้อมนอกสนาม
แน่นอนว่าทรูบียูถือเป็นทีมที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกแบบครบถ้วนที่สุดทีมนึงในแผ่นดินไทย ทั้งสนามซ้อมที่สวยงามและคลับเฮ้าส์ของสโมสรที่มีทั้ง ฟิตเนส โภชนาการ และ สันทการ ไว้ให้กับนักเตะทั้งหลาย ไหนจะโรงแรมชั้นเยี่ยมทุกการเก็บตัว การลดระยะทางการเล่นเกมเยือนด้วยเครื่องบินในจังหวัดที่ไกลๆ แม้แต่รถบัสของทีมยังมีถึง 2 คันด้วยกัน นับว่าเป็นทีมที่ใส่ใจกับรายละเอียดเหล่านี้ได้ดีมากๆ
ความฟิต
ในช่วงเลก 2 ของฤดูกาลก่อน แข้งเทพ มีนักเตะบาดเจ็บรวมกว่าครึ่งทีมจนทำให้ผลงานต้องดิ่งลงไป ทำให้ทีมมองว่าปัญหาไม่ใช่ตัวโค้ช แต่อยู่ที่ความฟิตและสภาพร่างกายของนักเตะมากกว่า ทำให้ในปีนี้ทีมไปดึงเอา โรดริโก้ สกีนัลลี่ โค้ชฟิตเนสชาวบราซิล ที่มีประสบการณ์มากมาย และเคยทำงานร่วมกับสโมสรชื่อดังมาแล้วหลายแห่งทั้งในลีกบราซิล และลีกเกาหลีใต้
ซึ่งผลงานของเขาในช่วงต้นปีกับ ทรู ก็ถือว่าดีทีเดียว นักเตะหลายรายออกมายอมรับว่า “โหดจริง” ในเรื่องของการเทรนฟิตเนส อย่างด้านของของ “แคมป์” สรรวัชญ์ เดชมิตร ออกมาพูดติดตลกเลยว่า “ถ้าโค้ชมาเร็วกว่านี้ ผมไปลาลีกาแล้ว”
ก็ไม่แน่ว่า “ความฟิต” อาจจะเป็นกุญแจสำคัญสู่แชมป์ของพวกเขาก็เป็นได้
เกมรับที่ถูกขันน็อต
ในช่วงปีที่ผ่านมา มานูเอล ทอม สถาปนาตัวเองขึ้นเป็นปราการหลังคนไทยที่ดีที่สุดในพศ.นี้ได้อย่างชัดเจน ซึ่งผลลัพธ์มันก็ต่อเนื่องมาถึงในสโมสรที่เจ้าตัวจับคู่กับ เอฟเวอร์ตัน เซ็นเตอร์แบ็คที่มีความครบเครื่องที่สุดในลีก ทั้งทางบอลความเร็ว ลูกกลางอากาศ และการขึ้นเกมอีก เมื่อรวมเข้ากับ ไมเคิล ฟาลเคสการ์ด ผู้รักษาประตูที่ดีที่สุดในลีก ก็ถือเป็นกำแพงเกมรับเลยก็ว่าได้
และที่เปลี่ยนไปอย่างชัดเจนของการดีเลย์ก่อนถึงแผงหลัง ด้วยการได้ ฮาจิเมะ โฮโซไก มายืนเป็นมิดฟิลด์ตัวรับ แถมมาโน่ยังเลือกใช้ แอนโทนี่ กลางเชิงรับจอมขยันลงมาอีกคน แสดงให้เห็นถึงการเน้นเกมรับและรัดกุมขึ้นมากทีเดียวหากเทียบกับสไตล์เดิมๆของ มาโน่ โพลกิ้ง
แนวรุกหลากหลาย
แนวรุกพวกเขายังมี วานเดอร์ หลุย และ อานนท์ สองแข้งสายพริ้วตัวทำเกมอยู่ แต่เสริมสไตล์ใหม่ด้วย บริสเนอร์ กองหน้าโปรไฟล์แจ่มจากบราซิลรูปร่างสูงใหญ่ ที่อาจมาเพิ่มอาวุธด้วยลูกกลางอากาศมากขึ้น รวมถึงกองหน้าไทยหลากหลายเจนเนอเรชั่นและสไตล์การเล่น ตั้งแต่ ชนานันท์ , ณัฐวุฒิ และ กัณพล ที่พร้อมรอให้เลือกใช้งาน
ส่วนกลางตัวรุก มาโน่ เลือกใช้งาน ปกเกล้า อนันต์ ลงเล่นก่อน ด้วยความขยันในเกมรับ และเซนท์บอลในเกมรุกที่ทันกัน วานเดอร์ แต่หากต้องการตัวเลือกอื่นก็ยังมี สรรวัชญ์ เเข้งจอมคลาสสิค รวมถึง รุ่งรัตน์ ปีกความเร็วสูงอีกราย
เวลาสร้างประสบการณ์และความสัมพันธ์
แน่นอนว่าพวกเขาถือเป็นทีมที่น่าผิดหวังมากสุดทีมนึง นับตั้งแต่พวกเขายกระดับทีมขึ้นมาลุ้นแชมป์ มาโน่และลูกทีมผ่านการเป็นรองแชมป์ใน เอสซีจี เมืองทอง การเบียดลุ้นแชมป์กับบุรีรัมย์ และการพ่ายแพ้ในนัดชิงฟุตบอลถ้วย จนปัจจุบันทีมใหญ่หน้าใหม่อย่าง เชียงราย ก็ยังกวาดแชมป์นำหน้าไปแล้วทุกรายการ
แต่นั่นก็ทำให้ พลพรรคแข้งเทพ มีประสบการณ์ในการลุ้นแชมป์มากขึ้น และมีมากกว่าทีมเต็งทีมอื่นในปีนี้อย่าง การท่าเรือ และ บีจี แน่นอน รวมถึงความสัมพันธ์ของการเล่นร่วมกันที่แข้งตัวหลักหลายคนเล่นด้วยกันมานานทีเดียว
เครดิตภาพ
True bangkok united