ชินจิ คากาวะ , ซน ฮึง-มิน หรือ อารอน มอย
ถือเป็นแข้งแถวหน้าของเอเชียในช่วงเวลาที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน เรียกได้ว่าพวกเขาถือเป็นแรงบันดาลใจของนักเตะเอเชียมากมายที่มีความฝันอยากจะไปโลดแล่นในเวทีฟุตบอลยุโรป
แน่นอนว่า ยิ่งมีแข้งเอเชียผงาดขึ้นมามีชื่อเสียงในระดับโลกเท่าไหร่
มันก็จะยิ่งจุดประกายความฝันของเด็กรุ่นใหม่มากมายทั่วเอเชียมากเท่านั้น และมันจะทำให้เราได้เห็นแข้งเอเชียรุ่นใหม่ไปเล่นในยุโรป
และสร้างชื่อเสียงระดับโลกมากขึ้นในทุก ๆ ยุคสมัยแน่นอน
อย่างตัวอย่างที่เห็นกันไปแล้วกับ ทาคุมิ มินามิโนะ แข้งทีมชาติญี่ปุ่นที่โดดเด่นกับ เรดบูล ซัลบวร์ก จนถูก
‘หงส์แดง’ มากระชากตัวไปร่วมทัพแล้ว
และ ทาคุมิ ก็กำลังทำงานหนักเพื่อรอวันที่จะได้เฉิดฉายขึ้นมา เหมือนดังเช่นรุ่นพี่อย่าง
ชินจิ คางาวะ ที่เคยมาคว้าแชมป์กับ ‘ปีศาจแดง’ นั่นเอง
แล้วนอกเหนือจากนี้หละ
?
ใครกันที่จะขึ้นมาเป็นแข้งแถวหน้าของเอเชีย ที่ได้โชว์เพลงแข้งในเวทียุโรประดับสูง อย่ารอช้ากันเลยดีกว่า ไปติดตามกันได้ในบทความนี้เลย
1.ซาร์ดาร์ อัซมูน
ชื่อ : ซาร์ดาร์ อัซมูน
สัญชาติ : อิหร่าน
สโมสร : เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก
อายุ : 25 ปี
ตำแหน่ง : กองหน้า
อัซมูน ดาวเด่นของ ‘นักรบเปร์เซีย’ ผู้ได้รับขนานนามว่า ‘เมสซี่แห่งอิหร่าน’ ด้วยฟอร์มที่โดดเด่นมาตั้งแต่เด็ก โดยเจ้าของความความสูง 183 เซนติเมตร
ย้ายมาฝังตัวในลีกรัสเซียตั้งแต่วัย 19 ปี ก่อนจะได้รับโอกาสมาทีละขั้น
จนมาอยู่กับ เอฟเค รอสตอฟ และในปี 2016 ก็ได้สร้างชื่อด้วยการพาต้นสังกัด
เปิดบ้านเอาชนะ บาเยิร์น มิวนิค ไป 3-2 โดยเจ้าตัวยังเป็นคนยิงประตูชัยอีกด้วย
ตลอดเวลาในช่วงนั้น อัซมูน
ก็ได้รับความสนใจจากทีมดังมากมายในฐานะดาวรุ่ง
ที่ปรากฏออกมาหน้าสื่อก็มีทั้งชื่อของ ลิเวอร์พูล, อาร์เซนอล
และบาร์เซโลนา แต่ทว่าก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ซึ่งปัจจุบันเจ้าตัวย้ายมาอยู่กับ เซนิต
ยักษ์ใหญ่ของลีก เป็นเวลา 2 ฤดูกาลแล้ว โดยลงเล่นไป 45 นัด ทำไป 26 ประตู กับ 10
แอสซิสต์
ไม่แน่ว่าเมื่อมีโอกาสได้ขึ้นโชว์ฟอร์มกับทีมใหญ่ และได้ลงเล่นใน
ยูฟ่า แชมเปี้ยนลีก ต่อเนื่องแบบนี้ ก็มีโอกาสที่บรรดาแมวมองของทีมในลีกใหญ่จะหันกลับมาสนใจเจ้าตัวอีกครั้งหนึ่ง
!!!
ชื่อ : ฮวาง ฮี ชาน
สัญชาติ : เกาหลีใต้
สโมสร : เรดบูล ซัลบวร์ก
อายุ : 24 ปี
ตำแหน่ง : กองหน้า , ปีก
เพื่อนร่วมทีมของ ทาคุมิ มินามิโนะ และ เอลิง ฮาแลนด์ ที่มีผลงานอันน่าจดจำร่วมกันที่ลีกออสเตรีย
ก่อนที่จะพากันไปสร้างชื่อในเวลาเวที ยูฟ่า แชมเปี้ยนลีก จนเพื่อนทั้ง 2 ถูกทีมใน
5 ลีกใหญ่ดีงตัวไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ตัวรุกทีมชาติเกาหลีใต้รายนี้ ไม่เคยลงเล่นใน เค ลีก ด้วยซ้ำ
เนื่องจากมาชุบตัวกับ เรดบลู ตั้งแต่เด็ก โดนก่อนหน้านี้ก็ลงเล่นกับทีมในเครือเดียวกันอย่าง
ไลเฟริ่ง ทีมในลีกรองมาก่อน จนเมื่อเริ่มมีแววก็ได้รับโอกาศขึ้นอยู่กับ ซัลบวร์ก
ในที่สุด และเคยถูก ฮัมบูร์ก ยืมตัวไปเล่นในลีกรองของเยอรมันอีกด้วย
ซึ่งภาพจำของใครหลายคนก็คงจะนึกออกหากเอ่ยว่า เขาคือนักเตะเกาหลีที่ล็อคหลบ
ฟานไดร์ และยิงประตู ลิเวอร์พูล นั่นเอง โดยการเล่นของเขาจะไม่ใช่กองหน้าตัวโป้งปิดบัญชี
แต่จะออกแนวตัวสร้างสรรค์เกมมากกว่า โดยในฤดูกาลนี้ เจ้าตัวทำไปแล้ว 14 ประตู กับ
19 แอสซิสต์ จาก 33 นัดด้วยกัน
3.เอเวอร์ มาบิล
สัญชาติ : ออสเตรเลีย
สโมสร : มิดเทินแลนด์
อายุ : 24 ปี
ตำแหน่ง :
กองหน้า , ปีก
ดาวเตะผิวสี เชื้อสาย ซูดานใต้ ที่ครอบครัวย้ายถิ่นฐานมาอยู่ใน
ออสเตรเลีย ตั้งแต่เด็กทำให้เจ้าตัวได้ฝึกฝนฟุตบอลในแผ่นดินจิงโจ้
ก่อนที่จะเริ่มฉายแวว แล้วถูก มิดเทินแลนด์ ยักษ์ใหญ่จาก เดนมาร์ก ดึงตัวไป ก่อนจะปล่อยยืมรวมถึงลงเล่นในทีมสำรองเรื่อยมา
และแล้วโอกาสของเจ้าตัวก็มาถึง เมื่อได้โอกาสขึ้นมาเป็นตัวหลักของทีมในฤดูกาล
2018-19 ตลอดมาจนถึงปัจจุบัน โดยใน 2 ฤดูกาลหลังสุดในลีก เขาทำไปได้ 13 ประตู กับ
15 แอสซิสต์ เลยทีเดียว ซึ่งในช่วงที่ขึ้นมานั้น ออสเตรเลีย ก็ได้เรียกตัวเขาไปใช้งานเช่นกัน
ซึ่งในปัจจุบันนี้เขาก็เป็นตัวหลักของทีมในเวทีฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก
ด้วยสไตล์การเล่นที่มีความเร็วสูงตามฉบับของนักเตะแอฟริกา
ทำให้เป็นมิติใหม่ในเวทีฟุตบอลเอเชียเช่นกัน หากเขาพัฒนาตนขึ้นไปได้เรื่อย ๆ
แบบนี้ก็คงจะหนีไม่พ้นการเป็นที่หมายปองของทีมใน 5 ลีกใหญ่ยุโรปแน่นอน
สัญชาติ : ญี่ปุ่น
สโมสร : เรอัล
มายอร์ก้า (ยืมจาก เรอัล มาดริด)
อายุ : 19 ปี
ตำแหน่ง : มิดฟิลด์ตัวรุก
, ปีก
แข้งเยาวชนจากแคมป์ ลามาเซีย ที่บาร์เซโลน่า จำใจต้องปล่อยเขากลับญี่ปุ่นหลังถูกจับได้ว่ามีการเซ็นสัญญากับนักเตะเยาวชนที่ขัดกับกฎของฟีฟ่า
ทำให้เจ้าของฉายา ‘เมสซี่ญี่ปุ่น’
ต้องกลับมาอยู่กับ เอฟซี โตเกียว ในเจลีก
คุโบะ ลงเล่นในกับทีมสำรองของ โตเกียว อยู่ประมาณ 3 ปี ก่อนจะมายึดตัวจริงที่
โตเกียว ได้ในครึ่งฤดูแรกของปี 2019 เขาลงเล่นไป 13 เกม ทำไป 3 ประตู กับ อีก 3
แอสซิสต์ ทำให้ เรอัล มาดริด ไม่รอช้า รีบคว้าตัว คุโบะ
ไปเริ่มทีมทันที่ในก่อนเริ่มฤดูกาล 2019-20 เนื่องจากเจ้าตัวจะอายุครบ 18 ปีเต็ม
ทำให้ทำได้ตามกฎทุกอย่าง
ในตอนแรก ซีดาน โค้ชของ ‘ราชันชุดขาว’ ไมได้ต้องการตัวและคาดว่าจะส่งไปเล่นในทีมสำรองอยู่แล้ว แต่ทาง เปเรซ
ประธานสโมสรขอให้หนีบ คุโบะ ไปทัวร์ในช่วงซัมเมอร์ด้วย แต่พอได้เห็นการฝึกซ้อมและการลงสนามกับรุ่นพี่ของเด็กหนุ่มรายนี้
ทำให้ซีดานได้รับรู้ว่า “เฮ้ย มันเล่นลีกรองไมได้แล้ว” สุดท้ายก็ได้ส่ง คุโบะ ไปอยู่กับ มายอร์ก้า ในสัญญายืมตัว โดยคาดว่าจะกลับมาทีมชุดใหญ่ในอนาคตนั่นเอง
!!!
5.ทาเกฮิโระ โทมิยาซุ
สัญชาติ : ญี่ปุ่น
สโมสร : โบโลญญา
อายุ : 21 ปี
ตำแหน่ง : เซนเตอร์แบ็ค
, แบ็คขวา
ปราการหลังที่น่าจับตามองที่สุดของแดนอาทิตย์อุทัย ตอนนี้ก็จะหนีไม่พ้น
โทมิยาซุ เด็กหนุ่มเจ้าของความสูง 188 เซนติเมตร ที่ย้ายไปอยู่ แซงต์-ทรุยด็อง
ในเบลเยี่ยม ตั้งแต่ช่วงอายุ 19 ปี และสามารถยึดตำแหน่งตัวจริงได้เลย
ทำให้ โบโลญญา ทีมในลีก อิตาลี ทุ่มงบ 9 ล้านยูโร คว้าตัวไปร่วมทัพ
ในช่วงต้นฤดูกาล 2019-20 ซึ่งใน เซเรียอา เจ้าตัวก็ได้รับโอกาสลงเล่นในตำแหน่งแบ็คขวาตัวจริงของทีมเรื่อยมา
จนมีข่าวว่า ลียง ทีมดังจากฝรั่งเศสก็แอบตามดูดาวเตะรายนี้อยู่เช่นกัน
6. อู่ เล่ย
สัญชาติ : จีน
สโมสร : เอสปันญ่อล
อายุ : 28 ปี
ตำแหน่ง :
กองหน้า , ปีก
หากเอ่ยถึง ‘ลีกจีน’ ทุกคนก็คงจะนึกถึงกองหน้าชื่อดังระดับโลกที่ย้ายมาโกยเงินหยวนกันอย่างมากมายในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
ซึ่งแน่นอนด้วยชื่อชั้นระดับนั้นพวกเขาก็คงจะครองตำแหน่ง’ดาวซัลโว’
กันอย่างแน่นอน
แต่ในฤดูกาล 2018 มันกลับมีชื่อของดาวเตะท้องถิ่นแทรกขึ้นมา นั่นก็คือ
อู่ เล่ย ดาวเตะเบอร์ 1 ของทีมชาติจีนยุคนี้ ที่กระหน่ำไป 27 ประตู จาก 29 นัด
จากการผสานงานกับ ออสการ์ และ ฮัลค์ พร้อมพา เซี่ยงไฮ้ เอสไอพีจี คว้าแชมป์ลีกในปีนั้น
ทำให้ตลอดการเล่นในแผ่นดินเกิดรวม 172 นัด เขาทำไปถึง 102 ประตู กับอีก 52
แอสซิสต์
ทำให้ในช่วงตลาดปีใหม่ของปี 2019 เอสปันญ่อล ทีมใน ลาลีกา
ดึงตัวเขาไปร่วมทีม ปัจจุบัน อู่ เล่ย ลงเล่นให้ทีมไปแล้ว 54 นัด ทำไป 10 ประตู
กับ 3 แอสซิสต์ ทำให้ตอนนี้ วูล์ฟแฮมป์ตัน
ทีมดังใน พรีเมียร์ลีก กำลังให้ความสนใจเจ้าตัวอยู่อย่างใกล้ชิด
7. แฮรี่ ซัวตาร์
ชื่อ : แฮรี่ ซัวตาร์
สัญชาติ :ออสเตรเลีย
สโมสร : สโต้ค ซิตี้
อายุ : 21 ปี
ตำแหน่ง : เซนเตอร์แบ็ค
ปราการหลังเจ้าของความสูง 200 เซนติเมตร ที่เกิดในสกอตแลนด์ แต่มีแม่เป็นคน
ออสเตรลีย ทำให้ล่าสุด พลพรรคจังโก้ ได้เรียกตัวติดทีมชาติชุดใหญ่ไปแล้ว โดยพึ่งลงเล่นในฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกไป
2 นัด แต่ทำไปถึง 4 ประตู จากตำแหน่งกองหลัง
ในนามสโมสร ซัวตาร์ เริ่มเล่นกับ ดันดี ในบ้านเกิด ก่อนจะถูก สโต้ค
ซิตี้ ทีมดังใน แชมเปี้ยนชิพ ดึงตัวมา แต่เจ้าตัวก็ยังต้องไปเริ่มเล่นในทีมเยาวชนเสียก่อน
จากนั้นก็ถูกปล่อยยืมตัวลงไปเล่นในลีกวัน และสร้างผลงานที่ดีกับ ฟลีตวู้ด ทาวน์
ซึ่งล่าสุดเจ้าตัวก็กลับมาอยู่กับต้นสังกัดเดิมแล้ว ก็ต้อรอติดตามว่าจะมีโอกาศมาแค่ไหน
และจะสามารถขึ้นมาไปเล่นยัง พรีเมียร์ลีก ได้หรือไม่
เครดิตภาพ
Getty Images
bleacherreport
Football West
chaina daily
wikimedia
Dansk fodbold
the time
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น