วันพุธที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2563

ก่อนเข้าโค้งสุดท้ายกับการแย่งชิงตั๋วฟุตบอลโลกที่กาตาร์ !


ในที่สุด ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 2 ที่ได้รับผลกระทบจาก โควิด-19 จนต้องเลื่อนการแข่งขันออกไป ก็ได้มีการกำหนดโปรแกรมการแข่งขันของนัดที่เหลืออยู่เรียบร้อยแล้ว
.
โดยในแมตช์เดย์ที่ 7 และ 8 จะแข่งขันกันในวันที่ 8 และ 13 ตุลาคม 2020 และแมตช์เดย์ที่ 9 และ 10 จะแข่งขันในวันที่ 12 และ 17 ตุลาคม 2020 ตามลำดับ
.
เอาเป็นว่าเมื่อมีโปรแกรมวางเอาไว้แล้ว ก็ถึงเวลาที่เราจะมาคาดการณ์ถึง “ตัวเต็ง” ของแต่ละสาย ที่มีโอกาสสูงในการที่จะเข้ารอบต่อไปในรอบที่ 3 หรือรอบ 12 ทีมสุดท้าย ซึ่งมันก็จะพ่วงด้วยตั๋วการเข้ารอบเอเชี่ยนคัพรอบสุดท้ายในปี 2023 อีกด้วย
.
แน่นอนว่าทั้ง 8 กลุ่ม จะมีเพียงจ่าฝูงเท่านั้นที่จะเข้ารอบอัตโนมัติเลยส่วนอันดับ 2 จะต้องไปลุ้นอันดับ 2 ที่ดีที่สุด ที่เอาเพียง 4 จาก 8 ทีมเท่านั้น วันนี้เราจะมาดูกันว่าแต่ละกลุ่ม ใครจะมีโอกาสสูงที่จะผ่านเข้ารอบต่อไป
.

กลุ่มเอ
จ่าฝูงของกลุ่มอย่าง ซีเรีย คงจะถือเป็นชื่อแรกที่ลอยเข้ามาในหัวหากพูดถึงทีมที่สร้าง “เซอร์ไพรส์” ด้วยผลงานออกสตาร์ทด้วยการคว้าชัยชนะรวด 5 เกม โดยส่วนสำคัญที่ทำให้พวกเขาทะยานขึ้นมาก็คงจะหนีไม่พ้น โอมาร์ อัล โซมา กองหน้าตัวเก่งวัย 31 ปี ที่ตะบันไป 7 ประตูจาก 5 นัดแรก และด้วยผลงาน 5 เกมแรกที่ยอดเยี่ยมแบบนี้ ก็คงจะทำให้เราวางชื่อของพวกเขาไว้ได้เลย




ส่วน จีน ที่มีผลงาน 7 แต้ม จาก 4 นัด และยังมีแต้มเท่า ฟิลิปปินส์ แต่ยังคงลงเล่นน้อยกว่า 1 นัด แต่ประเด็นหลักก็คือ ในเดือนตุลาคมนี้ จีน จะได้แข้งลูกครึ่งรวมถึงตัวโอนสัญชาติใหม่มาพร้อมกันมากถึง 6-7 ราย ที่มีทั้งแข้งยุโรปและบราซิล ซึ่งหากจูนกันได้เร็ว ก็มีโอกาสเก็บชัยชนะรวดได้เหมือนกัน แต่ถึงหากไล่ตาม ซีเรีย ไม่ทัน แต้มของพวกเขาก็น่าจะดีพอไปลุ้นอันดับสองดีที่สุดอยู่ดี

กลุ่มบี
จ่าฝูง ออสเตรเลีย ผลงานชนะรวด 4 เกม ด้วยผลงานยิง 16 เสีย 1 นับว่าเป็นผลงานสุดหรูของพลพรรค "จังโก้" ในยุคเปลี่ยนถ่ายที่มีนักเตะหน้าใหม่หลายราย นำมาโดย เจมส์ แมคลาเรน ดาวยิงฟอร์มแรง และ แฮรี่ ซัวตาร์ ปราการหลังดาวรุ่งจาก สโต๊ค ซิตี้ คงไม่มีปัญหาสำหรับการยึดตำแหน่งจ่าฝูงต่อไป

ส่วนทีมที่ตามมาจะเป็น คูเวต และ จอร์แดน ที่มี 10 แต้มเท่ากันเลย แต่หากยังสูสีและตัดกันเองแบบนี้ โอกาสที่แต้มของกลุ่มนี้ จะสู้อันดับ 2 จากกลุ่มอื่นอาจจะยากไปอีก

กลุ่มซี
ยักษ์ใหญ่อย่าง อิหร่าน ออกสตาร์ทได้ผิดฟอร์มด้วยการมีแค่ 6 แต้มจาก 4 นัด รวมถึงพ่ายให้กับคู่ปรับอย่าง อิรัก ที่นำอยู่ที่ 11 แต้ม รวมถึง บาห์เรน ที่มี 9 แต้ม แต่ด้วยการทีมที่ อิหร่าน มีเกมในมือเหลือมากกว่าคู่แข่งอีกสองทีม ก็คงจะกาชื่อพวกเขาออกไม่ได้ เชื่อว่าในท้ายที่สุดแล้ว พวกเขาจะสามารถแซงขึ้นไปเกาะอันดับ 2 เป็นอย่างน้อย โดยเขี่ยให้ บาห์เรน ต้องตกรอบไป ส่วน อิรัก ที่ฟอร์มดีต่อเนื่องแบบนี้คงจะรักษาจ่าฝูงไว้ได้


กลุ่มดี
อุซเบกิสถาน 9 แต้มจาก 5 นัด , ซาอุดิอาระเบีย 8 แต้มจาก 4 นัด และ สิงคโปร์ ที่มีผลงานดีเกินคาด 7 แต้มจาก 5 นัด

ทั้งหมดนี้คือสามทีมกลุ่มนำที่สูสีกันมากพอสมควร แต่หากดูจากจำนวนแต้ม กลุ่มนี้ก็คงยากที่อันดับ 2 จะมีแต้มมากพอไปวัดกับกลุ่มอื่น ส่วนจ่าฝูงก็ยังเชื่อว่าเมื่อ "สิงห์ทะเลทราย" แข่งครบตามจำนวนจะเร่งเครื่องและผ่านเข้าไปลุ้นตั๋วบอลโลกอีกสมัยได้แน่

กลุ่มอี
กลุ่มนี้ดูเหมือนว่าจะเป็นการเล่นที่สนุกกันอยู่สองทีมทั้งเจ้าภาพฟุตบอลโลกอย่าง กาตาร์ และ โอมาน ที่มี 13 และ 12 แต้มตามลำดับ โดยอันดับ 3 มีช่องว่างห่างจากพวกเขาถึง 8 แต้ม

ซึ่งดูแล้วทั้งคู่ก็คงจะเข้ารอบแน่นอนทั้ง กาตาร์ แชมป์เอเชี่ยนคัพ ที่คงยังแกร่งด้วยคู่หูอย่าง อัลโมซ อาลี และ อัคราม อาฟิฟ ส่วน โอมาน ก็น่าจะตามด้วยโควตาอันดับ 2 ที่ดีที่สุด ด้วยแต้มที่ยังดูสูงกว่ากลุ่มอื่นอยู่มาก

กลุ่มเอฟ
ซามูไรบลู” หรือทีมชาติญี่ปุ่นยังคงทำผลงานได้ดีตามชื่อชั้นด้วยการมี 12 แต้มเต็มจาก 4 นัดแรก นำจ่าฝูงยาว และน่าจะยาวยันจบเข้ารอบได้แน่นอน



แต่ทีมที่ตามมาอย่าง คีร์กีซสถาน ทาจิกิสถาน และ เมียนม่าร์ ที่มีกันเพียงแค่ 7 และ 6 แต้ม คงจะยากสำหรับการลุ้นอันดับสองที่ดีที่สุดเนื่องจากพวกเขา “ตัดกันเอง” เยอะเกินไปจนทำให้แต้มน้อยกว่ากลุ่มอื่นอยู่มาก

กลุ่มจี
เวียดนาม 11 แต้ม , มาเลเซีย 9 แต้ม , ไทย 8 แต้ม และ ยูเออี 6 แต้ม

กลุ่มนี้จะต้องใช้คำว่าสูสีมากพอสมควร เนื่องจากทีมอย่าง ยูเออี อยู่ในช่วงขาลงและทำผลงานได้ต่ำกว่ามาตรฐานมาก นอกจากนี้บรรดาทีมในย่านอาเซียนอย่าง เวียดนาม , มาเลเซีย และ ไทย ก็มีมาตรฐานที่ไม่หนีกันเกินไป ทำให้แต้มมันออกมาในรูปแบบ “งูกินหาง” แบบนี้

การที่จะฟันธงว่าใครจะได้เข้ารอบก็ยังเป็นเรื่องยาก แต่ตามสถานการณ์ก็ต้องเป็น เวียดนาม ที่นำอยู่ในตอนนี้มีเปอร์เซ็นต์มากสุด ตามด้วย ไทย ที่เชื่อว่าจะสามารถแซง มาเลเซีย ไปได้ในที่สุด ซึ่งพอได้อันดับ 2 ก็คงจะต้องมาลุ้นเอาว่า แต้มจะเพียงพอต่อการเข้ารอบหรือไม่


กลุ่มเอช
เติร์กเมนิสถาน 9 แต้ม , เกาหลีใต้ 8 แต้ม , เลบานอน 8 แต้ม และ เกาหลีเหนือ 8 แต้ม

กลุ่มนี้ต้องใช้คำว่า “สูสีที่สุด” แต่ทีมเต็งอย่าง เกาหลีใต้ จะยังแข่งน้อยกว่าทีมอื่นอยู่ 1 นัด ซึ่งก่อนหน้านี้นัดที่พวกเขาสะดุดเสมอ ก็เกิดจากการที่พวกเขาจบสกอร์ไม่ได้เอง แต่มั่นใจว่าในนัดที่เหลือพวกเขาจะขึ้นไปยึดจ่าฝูงได้แน่นอน ส่วนทีมอื่นที่ยังตามมาก็อาจจะต้องฮึดสักหน่อย หากหวังจะมีแต้มติดโควต้าอันดับสองที่ดีที่สุดไป !!!

เครดิตภาพ
kingfut.com
AS
JFA.FP
@CHANGSUEK




PALM WAZZA : ธนชล เอ่งฉ้วน
ผู้เขียน


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น