ในที่สุด ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 2 ที่ได้รับผลกระทบจาก โควิด-19
จนต้องเลื่อนการแข่งขันออกไป
ก็ได้มีการกำหนดโปรแกรมการแข่งขันของนัดที่เหลืออยู่เรียบร้อยแล้ว
.
โดยในแมตช์เดย์ที่ 7 และ 8 จะแข่งขันกันในวันที่ 8
และ 13 ตุลาคม 2020 และแมตช์เดย์ที่ 9 และ 10 จะแข่งขันในวันที่ 12
และ 17 ตุลาคม 2020 ตามลำดับ
.
เอาเป็นว่าเมื่อมีโปรแกรมวางเอาไว้แล้ว
ก็ถึงเวลาที่เราจะมาคาดการณ์ถึง “ตัวเต็ง” ของแต่ละสาย
ที่มีโอกาสสูงในการที่จะเข้ารอบต่อไปในรอบที่ 3 หรือรอบ 12 ทีมสุดท้าย ซึ่งมันก็จะพ่วงด้วยตั๋วการเข้ารอบเอเชี่ยนคัพรอบสุดท้ายในปี 2023 อีกด้วย
.
แน่นอนว่าทั้ง 8 กลุ่ม
จะมีเพียงจ่าฝูงเท่านั้นที่จะเข้ารอบอัตโนมัติเลยส่วนอันดับ 2 จะต้องไปลุ้นอันดับ 2 ที่ดีที่สุด ที่เอาเพียง 4 จาก 8 ทีมเท่านั้น วันนี้เราจะมาดูกันว่าแต่ละกลุ่ม
ใครจะมีโอกาสสูงที่จะผ่านเข้ารอบต่อไป
.
• กลุ่มเอ
จ่าฝูงของกลุ่มอย่าง ซีเรีย
คงจะถือเป็นชื่อแรกที่ลอยเข้ามาในหัวหากพูดถึงทีมที่สร้าง “เซอร์ไพรส์”
ด้วยผลงานออกสตาร์ทด้วยการคว้าชัยชนะรวด 5 เกม
โดยส่วนสำคัญที่ทำให้พวกเขาทะยานขึ้นมาก็คงจะหนีไม่พ้น โอมาร์ อัล โซมา
กองหน้าตัวเก่งวัย 31 ปี ที่ตะบันไป 7
ประตูจาก 5 นัดแรก และด้วยผลงาน 5
เกมแรกที่ยอดเยี่ยมแบบนี้ ก็คงจะทำให้เราวางชื่อของพวกเขาไว้ได้เลย
ส่วน จีน ที่มีผลงาน 7 แต้ม จาก 4 นัด และยังมีแต้มเท่า ฟิลิปปินส์
แต่ยังคงลงเล่นน้อยกว่า 1 นัด แต่ประเด็นหลักก็คือ
ในเดือนตุลาคมนี้ จีน จะได้แข้งลูกครึ่งรวมถึงตัวโอนสัญชาติใหม่มาพร้อมกันมากถึง 6-7 ราย ที่มีทั้งแข้งยุโรปและบราซิล ซึ่งหากจูนกันได้เร็ว
ก็มีโอกาสเก็บชัยชนะรวดได้เหมือนกัน แต่ถึงหากไล่ตาม ซีเรีย ไม่ทัน
แต้มของพวกเขาก็น่าจะดีพอไปลุ้นอันดับสองดีที่สุดอยู่ดี
• กลุ่มบี
จ่าฝูง ออสเตรเลีย ผลงานชนะรวด 4 เกม ด้วยผลงานยิง 16 เสีย 1
นับว่าเป็นผลงานสุดหรูของพลพรรค "จังโก้"
ในยุคเปลี่ยนถ่ายที่มีนักเตะหน้าใหม่หลายราย นำมาโดย เจมส์ แมคลาเรน
ดาวยิงฟอร์มแรง และ แฮรี่ ซัวตาร์ ปราการหลังดาวรุ่งจาก สโต๊ค ซิตี้
คงไม่มีปัญหาสำหรับการยึดตำแหน่งจ่าฝูงต่อไป
ส่วนทีมที่ตามมาจะเป็น คูเวต และ จอร์แดน ที่มี 10 แต้มเท่ากันเลย แต่หากยังสูสีและตัดกันเองแบบนี้ โอกาสที่แต้มของกลุ่มนี้
จะสู้อันดับ 2 จากกลุ่มอื่นอาจจะยากไปอีก
• กลุ่มซี
ยักษ์ใหญ่อย่าง อิหร่าน
ออกสตาร์ทได้ผิดฟอร์มด้วยการมีแค่ 6 แต้มจาก 4 นัด รวมถึงพ่ายให้กับคู่ปรับอย่าง อิรัก ที่นำอยู่ที่ 11 แต้ม รวมถึง บาห์เรน ที่มี 9 แต้ม แต่ด้วยการทีมที่
อิหร่าน มีเกมในมือเหลือมากกว่าคู่แข่งอีกสองทีม ก็คงจะกาชื่อพวกเขาออกไม่ได้
เชื่อว่าในท้ายที่สุดแล้ว พวกเขาจะสามารถแซงขึ้นไปเกาะอันดับ 2 เป็นอย่างน้อย โดยเขี่ยให้ บาห์เรน ต้องตกรอบไป ส่วน อิรัก
ที่ฟอร์มดีต่อเนื่องแบบนี้คงจะรักษาจ่าฝูงไว้ได้
• กลุ่มดี
อุซเบกิสถาน 9
แต้มจาก 5 นัด , ซาอุดิอาระเบีย 8 แต้มจาก 4 นัด และ สิงคโปร์ ที่มีผลงานดีเกินคาด 7 แต้มจาก 5 นัด
ทั้งหมดนี้คือสามทีมกลุ่มนำที่สูสีกันมากพอสมควร
แต่หากดูจากจำนวนแต้ม กลุ่มนี้ก็คงยากที่อันดับ 2
จะมีแต้มมากพอไปวัดกับกลุ่มอื่น ส่วนจ่าฝูงก็ยังเชื่อว่าเมื่อ
"สิงห์ทะเลทราย"
แข่งครบตามจำนวนจะเร่งเครื่องและผ่านเข้าไปลุ้นตั๋วบอลโลกอีกสมัยได้แน่
• กลุ่มอี
กลุ่มนี้ดูเหมือนว่าจะเป็นการเล่นที่สนุกกันอยู่สองทีมทั้งเจ้าภาพฟุตบอลโลกอย่าง
กาตาร์ และ โอมาน ที่มี 13 และ 12
แต้มตามลำดับ โดยอันดับ 3 มีช่องว่างห่างจากพวกเขาถึง 8 แต้ม
ซึ่งดูแล้วทั้งคู่ก็คงจะเข้ารอบแน่นอนทั้ง
กาตาร์ แชมป์เอเชี่ยนคัพ ที่คงยังแกร่งด้วยคู่หูอย่าง อัลโมซ อาลี และ อัคราม
อาฟิฟ ส่วน โอมาน ก็น่าจะตามด้วยโควตาอันดับ 2 ที่ดีที่สุด
ด้วยแต้มที่ยังดูสูงกว่ากลุ่มอื่นอยู่มาก
• กลุ่มเอฟ
“ซามูไรบลู”
หรือทีมชาติญี่ปุ่นยังคงทำผลงานได้ดีตามชื่อชั้นด้วยการมี 12
แต้มเต็มจาก 4 นัดแรก นำจ่าฝูงยาว และน่าจะยาวยันจบเข้ารอบได้แน่นอน
แต่ทีมที่ตามมาอย่าง คีร์กีซสถาน ทาจิกิสถาน และ
เมียนม่าร์ ที่มีกันเพียงแค่ 7 และ 6 แต้ม คงจะยากสำหรับการลุ้นอันดับสองที่ดีที่สุดเนื่องจากพวกเขา
“ตัดกันเอง” เยอะเกินไปจนทำให้แต้มน้อยกว่ากลุ่มอื่นอยู่มาก
• กลุ่มจี
เวียดนาม 11 แต้ม ,
มาเลเซีย 9 แต้ม , ไทย 8 แต้ม และ ยูเออี 6 แต้ม
กลุ่มนี้จะต้องใช้คำว่าสูสีมากพอสมควร
เนื่องจากทีมอย่าง ยูเออี อยู่ในช่วงขาลงและทำผลงานได้ต่ำกว่ามาตรฐานมาก
นอกจากนี้บรรดาทีมในย่านอาเซียนอย่าง เวียดนาม , มาเลเซีย
และ ไทย ก็มีมาตรฐานที่ไม่หนีกันเกินไป ทำให้แต้มมันออกมาในรูปแบบ “งูกินหาง”
แบบนี้
การที่จะฟันธงว่าใครจะได้เข้ารอบก็ยังเป็นเรื่องยาก
แต่ตามสถานการณ์ก็ต้องเป็น เวียดนาม ที่นำอยู่ในตอนนี้มีเปอร์เซ็นต์มากสุด ตามด้วย
ไทย ที่เชื่อว่าจะสามารถแซง มาเลเซีย ไปได้ในที่สุด ซึ่งพอได้อันดับ 2 ก็คงจะต้องมาลุ้นเอาว่า แต้มจะเพียงพอต่อการเข้ารอบหรือไม่
• กลุ่มเอช
เติร์กเมนิสถาน 9 แต้ม ,
เกาหลีใต้ 8 แต้ม , เลบานอน
8 แต้ม และ เกาหลีเหนือ 8 แต้ม
กลุ่มนี้ต้องใช้คำว่า “สูสีที่สุด”
แต่ทีมเต็งอย่าง เกาหลีใต้ จะยังแข่งน้อยกว่าทีมอื่นอยู่ 1 นัด ซึ่งก่อนหน้านี้นัดที่พวกเขาสะดุดเสมอ
ก็เกิดจากการที่พวกเขาจบสกอร์ไม่ได้เอง
แต่มั่นใจว่าในนัดที่เหลือพวกเขาจะขึ้นไปยึดจ่าฝูงได้แน่นอน
ส่วนทีมอื่นที่ยังตามมาก็อาจจะต้องฮึดสักหน่อย
หากหวังจะมีแต้มติดโควต้าอันดับสองที่ดีที่สุดไป !!!
เครดิตภาพ
kingfut.com
AS
JFA.FP
@CHANGSUEK
PALM WAZZA : ธนชล เอ่งฉ้วน
ผู้เขียน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น