เมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา บาเยิร์น มิวนิค พึ่งจะฉลองการคว้าแชมป์ลีกสมัยที่ 30 ของทีม และเป็นสมัยที่ 8 ติดต่อกันไปด้วยผลงานที่ยอดเยี่ยมในฤดูกาลนี้ แต่ในขณะเดียวกัน ทีมหรือลีกของพวกเขาก็ต่างโดนข้อครหาถึงความเข้มข้น หรือมาตรฐานการแข่งขันในลีก
บ้างก็ว่าลีกไม่มีคุณภาพ บ้างก็ว่ารวยอยู่ทีมเดียว แต่แล้วไงหละสุดท้ายทีมพวกเขาก็ต้องเดินหน้าทำงานหนักเพื่อสร้างผลงานและสานต่อสถิติให้ได้ดีในทุก
ๆ ปีต่อไป และกว่าจะพาทีมให้ไปอยู่ในจุดนั้นได้ ไม่ใช่แค่ว่ามีเงินอย่างเดียวก็พอ
วันนี้เราจะพาไปดูกันว่า มีทีมในลีกเอเชียทีมไหนอีกบ้างที่ครองแชมป์ลีกสูงสุดแบบทิ้งห่างคู่แข่งในประเทศแบบนี้
และอะไรกันที่ทำให้พวกเขามีรากฐานที่มั่นคงเช่นนั้น !!!
อัล ฮิลาล
แชมป์ซาอุดิ โปรเฟสชั่นแนล ลีก - 15 สมัย
ยอดทีมแดนน้ำมันคว้าแชมป์ลีกสูงสุดทิ้งห่างอันดับสองถึง 6 สมัย
พ่วงด้วยดีกรีแชมป์เอเชียปีล่าสุด โดยสามารถล้มทีมดังจากญี่ปุ่น อย่าง อูราวะ เร้ด
ไดมอนส์ ได้ในนัดชิงชนะเลิศอีกด้วย
โดยในทีมพวกเขามีแข้งต่างชาติชื่อดังระดับโลกอย่าง เซบาสเตียน โจวินโก้ อดีตตัวรุกทีมชาติอิตาลีและยูเวนตุส
และ บาเฟติมบี้ โกมิส กองหน้าเจ้าของท่าดีใจสุดหลอน นอกจาก 2 คู่หูเกมรุกชื่อดัง
พวกเขาก็มีเกมรับชั้นดีอย่าง จาง ฮยุน ซู กองหลังเกาหลีใต้ และ กุสตาโว่ กวยเลอร์
กลางรับทีมชาติโคลัมเบีย
และนอกเหนือจากนี้พวกเขายังมีขุมกำลังท้องถิ่นที่แข็งแกร่ง
โดยมีแข้งทีมชาติซาอุดิอาราเบีย ชุดปัจจุบันอยู่ถึง 8 ราย รวมถึงดาวดังอย่าง ซาเล็ม
อัลดอว์ซารี่ แข้งดีกรีลาลีกา
กวางโจว เอเวอร์แกรนด์
แชมป์ไชนีสซูเปอร์ลีก – 8 สมัย
หลังจาก เอเวอร์แกรนด์ เรียล เอสเตท
บริษัทอสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่ในจีน ได้มาเทคโอเวอร์ทีมพวกเขาก็ยกระดับทีมขึ้นมาได้น่าเหลือเชื่อ
โดยการกวาดต้อนนักเตะทีมชาติจีนมากมายเช่น เกา หลิน ศูนย์หน้าตัวเก่ง กับ เจิ้ง
จื่อ กัปตันทีมชาติจีนที่กลับมาจาก กลาสโกว์ เซลติก
นอกจากนี้พวกเขายังวางรากฐานด้วย เอเวอร์แกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล ฟุตบอล สคูล
ศูนย์ฝึกฟุตบอลมูลค่า 9 พ้นล้านบาท
ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกันสมาคมฟุตบอลจีนที่หวังอยากเห็นเด็กจีนหันมาเล่นฟุตบอลมากขึ้น
เพื่อพัฒนาคุณภาพฟุตบอลจีนให้อนาคตต่อไป
และที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ นักเตะและโค้ชต่างชาติชื่อดัง
อย่างที่รู้กันว่าลีกจีนขึ้นชื่อในเรื่องเงินทุนที่จะดึงนักเตะระดับโลกมาค้าแข้ง
โดยในยุคแรกพวกเขาได้ดึง ลูคัส บาร์ริออส กองหน้าทีมชาติปารากวัย , โรบินโญ่ ดาวเตะบราซิล
และจนถึงปัจจุบันอย่าง เปาลินโญ่ และ ทาริสก้า
ทั้งหมดนี้จึงทำให้พวกเขาครองแชมป์ 8 ครั้งจาก 9 ปีหลังสุดนั่นเอง !!!
ยะโฮร์ ดารุล ทักซิม
แชมป์มาเลเซีย ซูเปอร์ลีก – 6 สมัย
“พยัคฆ์แดนใต้” ทีมดังจากมาเลเซียที่มีเจ้าจองทีมอย่าง มกุฎราชกุมาร ทันกุฃ
อิสมาอิล ไอดริส มหาเศรษฐีเชื้อพระวงศ์
ที่เข้ามาซื้อทีมและยกระดับขึ้นมาเป็นทีมยัก์ใหญ่ในย่านอาเซียน ด้วยผลงานแชมป์ลีก
6 สมัยติด
โดยพวกเขามีแข้งทีมชาติมาเลเซียในทีมถึง 13-14 รายเลยทีเดียว รวมถึงแข้งต่างชาติดีกรีสูง
อย่างที่รู้จักกันดีก็คงจะเป็น ดิโอโก้ หลุยส์ ซานโต ตำนานแข้งที่ได้ชื่อว่าเก่งที่สุดในลีก
ก็ย้ายไปอยู่กับพวกเขา รวมถึงกองหลังอย่าง เมาริซิโอ ที่ทางทีมไปคว้าตัวมาจาก
ลาซิโอ้ ทีมดังในลีกอิตาลีเลยทีเดียว
อีกทั้งสนามแข่งขันใหม่และศูนย์ฝึกซ้อมของพวกเขาก็มีมาตรฐานสูงสุดในอาเซียนก็ว่าได้
ทำให้เยาวชนรุ่นใหม่ที่ผ่านการฝึกของพวกเขาก็มีมาตรฐานที่ดีขึ้น
เชื่อว่าด้วยมาตรฐานทั้งกำลังเงินและคุณภาพแบบนี้ คงจะยากที่มีใครโค่นพวกเขาลงได้
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
แชมป์ไทยลีก – 7 สมัย
หลังจากที่ การไฟฟ้า คว้าแชมป์ไทยลีกได้เป็นครั้งแรกในปี 2008 จากนั้น
เนวิน ชิดชอบ ได้เข้ามาเทคโอเวอร์และเปลี่ยนชื่อเป็น บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในที่สุด
หลังจากนั้นเขาพาทีมคว้าอีก 6 แชมป์ลีกภายในเวลา 10 ปี
ในยุคแรก บุรีรัมย์ ได้ทำการอิมพอร์ตนักเตะต่างชาติผิวสีชั้นดีอย่างเช่น
แฟรงค์ อาชิมปง และ แฟร้งโอฮันซ่า จนมายุคที่ใช้ตัวสเปนอย่าง ออสมาร์ และ คาเมโล่
กอนซาเลซ ก่อนจะมาถึงยุคละตินอเมริกาอย่าง ตูเญซ และ ดิโอโก้
ทำให้ทีมขึ้นชื่อเรื่องการนำเข้าผู้เล่นต่างชาติที่มีคุณภาพ
ส่วนนักเตะไทย ในยุคแรกพวกเขาก็มีการทุ่มคว้านักเตะอย่างคู่แฝด สุรีย์
และ สุรัตน์ สุขะ , อนาวิน จูจีน , จักรพันธ์ แก้วพรม และ นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม
แต่ในปัจจุบัน พวกเขาประกาศว่าจะไม่ทุ่มซื้อสตาร์ดังอีกต่อไป
ปราสาทสายฟ้า
จะมองหานักเตะที่นำมาปั้นต่อหรือต้องเป็นคนท้องถิ่นเท่านั้น
เหมือนที่ประสบความสำเร็จกับ พรรษา เหมวิบูลย์ นอกเหนือจากนี้
ก็จะใช้งานนักเตะดาวรุ่งจากอคาเดมี่ของตนเองเท่านั้น เพื่อหวังจะตามรอย รัตนากร
ใหม่คามิ , สุภโชค สารชาติ และ ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา
เครดิตภาพ
Buriram united
https://www.isportconnect.com/world-athletics-indoor-championships-postponed-due-coronavirus/
https://saudigazette.com.sa/article/583325
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น